วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

รองเท้า nike


Nike Mercurial Talaria V FG - Orion Blue/Metallic Silver/Obsidian/Max Orange สีฟ้า/ดำ

Mercurial Talaria V เป็นรองเท้ารุ่นรองท็อปในสายพันธุ์จรวดทางเรียบจากไนกี้ ถึงแม้ว่าในอดีตจะไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร อันเนื่องมาจากรองเท้ารุ่นนี้เหมือนว่าขาดเสน่ห์บางอย่างแถมยังมีค่าตัวค่อนข้างสูง แต่ในความเป็นจริงแล้วรองเท้ารุ่นรองที่มักถูกมองข้าม ก็มีความน่าสนใจอยู่ในตัวไม่น้อย...
เนื่องจากว่าเป็นรองเท้ารุ่นรองท็อปทำให้วัสดุหลักที่ใช้ทำหน้าผ้าของรองเท้ารุ่นนี้เป็นเพียงหนังสังเคราะห์(Synthetic Leather) ที่เคลือบพื้นผิวให้มีความเงางามและมีความเหนียวในการดึงดูดกับลูกฟุตบอลได้เป็นอย่างดี เส้นสายและแนวเย็บของ Talaria V ค่อนข้างจะคล้ายคลึงกับรุ่นท็อปอย่าง Vapor V นั่นคือพื้นผิวด้านนอกแทบทั้งหมดค่อนข้างเรียบ

สำหรับรองเท้ารุ่นนี้จะมีเส้นคล้ายแนวของ Flywire บริเวณตอนกลางของรองเท้าทั้งข้างเท้าด้านในและด้านนอก แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้มีเทคโนโลยีดังกล่าวอยู่ภายในตัวรองเท้า Talaria V ไม่มีที่ปิดเชือกเพื่อเป็นพื้นผิวสัมผัสและควบคุมฟุตบอลบริเวณหลังเท้า และสิ่งที่ต้องถือว่าเป็นเอกลักษณ์สำหรับรองเท้ารุ่นนี้ก็คือปุ่มใบมีดขาวใสนั่นเอง

รูปทรงโดยรวมของรองเท้านั้นดูปราดเปรียวเฉกเช่นเดียวกับรองเท้ารุ่นท็อป มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 261กรัม ถือว่าไม่เบามากเท่าไหร่นักภายในมีแผ่นรองพื้นแยกจากตัวรองเท้า สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ ซึ่งแผ่นรองพื้นทำจาก EVA Foam มีความนุ่มและสามารถรองรับแรงกระแทกได้พอสมควร แต่พื้นผิวของแผ่นรองพื้นด้านในนี้ไม่ได้ถูกเคลือบให้สามารถยึดติดกับเท้าของผู้ใส่ได้เป็นอย่างดี และอีกจุดเด่นของรองเท้ารุ่นรองสายพันธุ์จรวดทางเรียบรุ่นนี้ก็คือบริเวณหุ้มส้นด้านในจะมีปุ่มนูนขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ล็อกเอ็นร้อยหวายให้มีความกระชับ
ข้อมูลทั่วไป ระดับรองเท้า : Medium วัสดุหลักบนตัวรองเท้า : หนังสังเคราะห์ (Synthetic Leather) ลักษณะเกราะกันส้นเท้า : ภายใน (Internal Heel Counter) วัสดุพื้นรองด้านใน : EVA Foam การถอดพื้นรองด้านใน : ถอดได้ วัสดุที่ใช้ทำปุ่ม : PU ลักษณะปุ่มแบบ FG : ปุ่มใบมีดแบบพิเศษเฉพาะ Mercurial น้ำหนักโดยประมาณ : 261 กรัม จุดเด่นโดยรวม : - สิ่งที่ต่างจากรุ่นอื่น : มีอุปกรณ์ช่วยล็อกเอ็นร้อยหวายเพื่อเพิ่มความกระชับให้กับผู้สวมใส่ ปลายปุ่มใบมีดทำจากวัสดุใส เปรียบเทียบความน่าใช้ : ถึงแม้ว่าค่าตัวจะสูง...แต่เทคโนโลยีที่ได้มาก็น่าพอใจเป็นอย่างมาก ราคาป้าย : 4,500 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น